วันศุกร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

วิธีบอกรักในวันวาเลนไทน์



   ใกล้ถึงช่วงเวลาที่อบอวลไปด้วยกลิ่นไอของความรักอย่าง วันวาเลนไทน์ ใคร ๆ ที่มีคู่เลิฟแล้ว คงอยากอยู่ด้วยกันในช่วงเวลาพิเศษแบบนี้ใช่ไหมล่ะ แต่ลองคิดดูสิจ๊ะ ถ้ามีดอกไม้สักช่อ หรือของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่มาพร้อมกับคำบอกรักหวาน ๆ ด้วยล่ะก็ (แม้จะดูเลี่ยน ๆ) แต่รับรองอีกฝ่ายประทับใจแน่ ๆ  ว่าแต่ว่า วิธีบอกรัก แม้จะมีมาก แต่ก็ไม่อยากลงมือทำใช่ไหมล่ะ แต่เอาน่ะ หาอะไรเซอร์ไพรส์ หรือลองบอกรักคนพิเศษบ้าง ก็ดูน่ารักดีออกนะ

          ว่าแล้ววันนี้ ก็มี วิธีบอกรัก มาฝาก เผื่อเป็นไอเดียให้หนุ่มสาวเอาไปใช้บอกใครคนนั้นกัน เอ้า...อย่ารอช้า ไปดูกันเลย

พูดเลยว่า "รัก"

          ...บอกไปเลยว่า รักมากมาย หรือจะเป็น รักนะตัวเอง หรือ รักนะเด็กโง่ ก็ได้ไม่ว่ากัน เพราะเป็นคำสั้น ๆ ง่าย ๆ แต่ได้ใจความและตรงประเด็น วิธีบอกรัก แบบนี้เหมาะมาก ๆ สำหรับคนที่เคยปากหนัก พูดไม่ออกบอกไม่ถูก ไม่เค้ยไม่เคยจะหวานใส่คุณแฟนเลยสักครั้ง ลองหาสถานที่โรแมนติก แล้วบอกรักเบา ๆ กระซิบข้างหูกันดูบ้าง หรือถ้าระดับความกล้ามีมาก (เกินปกติ) ลองตะโกนบอกรักแฟนคุณดัง ๆ ต่อหน้าคนอื่นดูบ้างไหมล่ะ แม้จะทำเขาอายหน้าแดง แต่ที่ลงทุนลงแรงไปน่ะ ได้ใจชัวร์ ๆ

ของขวัญสื่อรัก

          ดอกไม้ ตุ๊กตา และอื่น ๆ ที่เขาชอบหรือกำลังอยากได้ เป็นพร๊อพบอกรักที่ให้เมื่อไหร่ คนรับเป็นต้องยิ้มแก้มปริ แถมไม่ต้องพูดว่ารักตรง ๆ ก็รู้ว่าคุณรักเขามากแค่ไหน เพราะการให้ของขวัญเป็น วิธีบอกรัก ที่เปรียบเหมือนการใส่ใจเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ของอีกฝ่าย ถ้าให้ดีวางแผนเซอร์ไพร์สโดยไม่ให้เขารู้ล่วงหน้าด้วยนะ เช่น แกล้งให้เขาไปหยิบของชิ้นนั้นเอง หรือแอบวางไว้ในรถ กระเป๋า หรือที่อื่น ๆ ที่เขาจะต้องเห็นมันแน่ ๆ เป็นต้น

SMS บอกรัก

          ถ้าใจไม่กล้าพอจะพูด sms ก็เป็นตัวช่วยส่งสารความรักที่ได้รับความนิยมไม่น้อย แต่ถ้าอยากให้เก๋ไก๋ อาจต้องมีชั้นเชิงกันสักหน่อย เช่น พิมพ์ข้อความบอกรักไว้ก่อนล่วงหน้า (เอาแบบว่าพร้อมส่ง) และในวันสำคัญ ให้บอกคนรักของคุณว่ามีเรื่องจะพูดด้วย พร้อมทั้งทำหน้าและน้ำเสียงแบบจริงจัง แต่มีข้อแม้ว่าต้องเล่นแอ็คติ้งเนียน ๆ  หน่อยนะ และเมื่อเขาอยากรู้ ในขณะที่เราก็กำลังจะเอ่ยปากบอก ให้กดส่ง sms ออกไปในทันใด ซึ่งดูเหมือนจะทำให้เสียบรรยากาศ แต่เมื่อเขาได้อ่าน sms หวาน ๆ จากคุณแล้ว รับรองหัวใจหล่นดังตุ๊บแน่นอน

บริการบอกรัก

          เดี๋ยวนี้อะไรก็ไฮเทค ถ้าจะเซอร์ไพร์สด้วย วิธีบอกรัก แบบเด็ดสะระตี่โดนใจโดยไม่ต้องลงมือทำเอง ก็ลองหาบริการบอกรักดูเป็นไงล่ะ ลองเสิร์จหาได้ทางอินเทอร์เน็ต มีเยอะแยะที่บริการทุกระดับประทับใจ  อย่างเช่น บริการบอกรักของกลุ่มฟีนิกซ์ นักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ที่เคยสร้างปรากฎการณ์รับจ้างบอกรักจนโด่งดังมาก ๆ มาแล้ว

เพลงซึ้งบอกรัก

          ใครที่ชอบร้องคาราโอเกะเป็นทุนเดิม วิธีบอกรัก แบบนี้ก็เหมาะเหม็ง การที่คุณชวนคนรักไปดินเนอร์ในร้านอาหารที่มีดนตรีสด คุณอาจเตี๊ยมกับทางร้านไว้ว่าขอคิวขึ้นร้องเพลงสักเพลง และเมื่อเวลาเป็นใจก็โดดขึ้นไปร้องเพลงรักซึ้ง ๆ หรือเพลงที่คนพิเศษของคุณชอบ แต่อย่าลืมบอกผ่านไมโครโฟนไปด้วยว่าเพลงนี้สำหรับหวานใจของคุณเท่านั้น (โอ้...หวานซ้าาา)

โน้ตบอกรัก

          ทำได้โดยหยิบกระดาษโน้ตขนาดพอน่ารักมาเขียนคำบอกรักหวาน ๆ ชวนจั๊กกะจี้หัวใจ แปะไว้ในทุก ๆ ที่ที่เขาจะสามารถมองเห็นได้ แนะนำว่าเยอะเท่าไหร่ก็ยิ่งดี รับรองว่าคนรักของคุณต้องยิ้มไม่หุบแน่ ๆ เลย

บอกรักผ่านดีเจ

          ถ้าคุณคือผู้ที่กดโทรศัพท์ได้ไวพอล่ะก็ การขอเพลงบอกรักผ่านคุณพี่ดีเจ ก็เป็น วิธีบอกรัก ที่โรแมนติกไม่เบาเลย แต่ต้องแน่ใจว่าเขาคนนั้นก็กำลังฟังเพลงคลื่นเดียวกับคุณอยู่ และนอกจากจะขอเพลงเป็นตัวแทนบอกรักแล้ว อย่าลืมที่จะฝากข้อความหวาน ๆ ถึงเขาด้วยล่ะ (ไหน ๆ ก็อุตส่าห์โทรติดอ่ะนะ)

จดหมายรัก Love Letter

          นานแค่ไหนแล้วที่คุณไม่ได้เขียนจดหมายส่งทางไปรษณีย์ งั้น... ลองหยิบกระดาษปากกามาถ่ายทอดความในใจของคุณไปถึงคนที่รักก่อนถึงวันสำคัญ ก็โรแมนติกไปอีกแบบนะ(ว่าไหม)


          เป็นอย่างไรกันบ้างจ๊ะ วิธีบอกรัก ที่กล่าวมา ถูกใจกันบ้างไหมเอ่ย ....ยังไง วาเลนไทน์ นี้ อย่าลืมถือโอกาสดี ๆ บอกรัก เธอหรือเขาคนนั้น เพื่อเติมความหวานให้น้ำตาลเรียกพี่กันไปเล้ยยย


วันศุกร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

เต้าหู้ยี้

เต้าหู้ยี้

เมื่อย่างเข้าสู่เทศกาลตรุษจีนหลายคนคงนึกถึงสีแดงและอาหารจีน มีอาหารจีนชนิดหนึ่งที่ช่วยเพิ่มรสชาดอาหารหลายชนิดให้อร่อย อาทิเช่น เย็นตาโฟที่มีน้ำเป็นสีแดง อาหารจีนที่ว่านี้จะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากเต้าหู้ยี้ ท่านทราบหรือไม่ว่าเต้าหู้ยี้ทำมาจากอะไร เราได้นำสูตรการทำเต้าหู้ยี้มาให้ท่านได้ทราบกันแล้วค่ะ
สูตร
เต้าหู้ขาว                              พอสมควร
เกลือ                                     2      ถ้วยตวง
น้ำเต้าเจี้ยว                           4     ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย                        1/2  ถ้วยตวง
น้ำ                                         4     ถ้วยตวง 

วิธีทำ
1 นำน้ำสะอาดขึ้นตั้งไฟ พอน้ำเดือดใส่เกลือและน้ำตาลทรายลงไป คนให้เข้ากัน ยกลง
2
กรองด้วยผ้าขาวบาง เสร็จแล้วขึ้นตั้งไฟอีก คราวนี้ห้ามใช้ไฟแรง เคี่ยวให้งวดเหลือประมาณครึ่งหนึ่ง

3
นำเต้าหู้มาตัดเป็นก้อนสี่เหลี่ยมเล็กๆ แช่ในน้ำเกลือจากข้อ 2 นาน 10 นาที นำขึ้นมาผึ่งบนตะแกรงให้สะเด็ดน้ำ

4
นำเต้าหู้มานึ่งจนระอุได้ที่ จากนั้นนำมาเรียงใส่ตะแกรงอีกครั้ง ตากแดดไว้ 1 แดดให้แห้งหมาดๆ

5
เสร็จแล้วนำมาเรียงใส่ในขวดที่ทำความสะอาดและแห้งดีแล้ว เติมเต้าเจี้ยวลงไป ปิดฝาขวดให้แน่น สามารถเก็บไว้ได้นาน ทำตุนเยอะๆไว้ขายได้

วันพุธที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ตรุษจีนมาแล้วจ้า

  ตรุษจีน

ตรุษจีนเป็นวันสำคัญของจีนที่มีมาแต่โบราณที่เรียกว่า "กว้อชุนเจี๋ย" หรือ "กว้อเหนียน" เล่ากันว่าในสมัยโบราณ ในป่าทึบแห่งหนึ่ง มีสัตว์ป่าที่ดุร้ายและน่ากลัวมากตัวหนึ่ง เรียกว่า "เหนียน" มันออกอาละวาดกินคนเป็นประจำ พระเจ้าจึงลงโทษมัน อนุญาตให้มันลงมาจากเขาได้เพียงหนึ่งครั้งใน 365 วัน

ดังนั้น เมื่อฤดูหนาวใกล้จะผ่านไป ฤดูใบไม้ผลิเวียนมาใกล้ เหนียน ก็จะออกมาทำร้ายผู้คน เพื่อป้องกันการมาของ เหนียน ทุก ๆ ครัวเรือนจึงต่างสะสมเสบียงอาหาร และกับข้าวจำนวนหนึ่งไว้ในบ้าน เมื่อถึงตอนค่ำของวันที่ 30 เดือน 12 ก็จะปิดประตูและหน้าต่างเอาไว้ ไม่หลับไม่นอนตลอดคืน เพื่อต่อสู้กับ เหนียน จนกระทั่งถึงรุ่งเช้าก็จะเป็นวันแรม 1 ค่ำ เดือน 1 เมื่อ เหนียน กลับไปแล้ว ทุก ๆ ครัวเรือนก็จะเปิดประตูออกมาแสดงความยินดีต่อกัน ที่โชคดีไม่ได้ถูก เหนียน ทำร้าย

ต่อมาพบว่า เหนียน มีจุดอ่อน มีอยู่ครั้งหนึ่ง เมื่อ เหนียน มาถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่ง มีเด็กกลุ่มหนึ่งกำลังหวดแส้เล่นกัน เมื่อ เหนียน ได้ยินเสียงแส้ดังเปรี้ยงปร้างก็เลยตกใจเผ่นหนีไป เมื่อ เหนียน ไปถึงหมู่บ้านอีกแห่งหนึ่ง เห็นมีชุดเสื้อผ้าสีแดงตากอยู่หน้าบ้านของครอบครัวหนึ่ง สีแดงฉูดฉาดนั้น ทำให้ เหนียน ตกใจและเผ่นหนีไปอีก เมื่อ เหนียน มาถึงหมู่บ้านแห่งที่สาม ปรากฏว่าไปพบเห็นกองเพลิงกองหนึ่งบนถนน แสงเพลิงที่เจิดจ้าทำให้ เหนียน ต้องเผ่นหนีไปอีก ตั้งแต่นั้นมา ผู้คนต่างรู้ว่า แม้ว่า เหนียน จะดุร้ายแต่มันก็กลัวสีแดง เสียงดัง และไฟ ทำให้ผู้คนสามารถคิดหาวิธีกำจัด เหนียน ได้โดยไม่ยากนัก

เมื่อวันส่งท้ายตรุษจีนเวียนมาอีกครั้งหนึ่ง ทุก ๆ ครัวเรือนจึงต่างนำกระดาษสีแดงมาติดไว้บนประตูหน้าบ้าน แขวนโคมไฟสีแดง พร้อมกับจุดประทัดและตีฆ้องรัวกลองอย่างต่อเนื่อง เมื่อ เหนียน มาถึงในตอนเย็น เห็นทุก ๆ ครัวเรือนมีแสงไฟสว่างไสว มีเสียงประทัดดังสนั่นจึงตกใจเผ่นหนีกลับเข้าป่าไป และไม่กล้าออกมาอาละวาดอีก ทุก ๆ คนจึงผ่านพ้นคืนแห่งอันตรายไปอย่างปลอดภัย เมื่อฟ้าสางแล้ว ผู้คนจึงออกมาจากบ้าน กล่าวคำอวยพรซึ่งกันและกันอย่างมีความสุข พร้อมกับการนำอาหารออกมารับประทานร่วมกันอย่างสนุกสนาน

ต่อมา วันดังกล่าวจึงกลายมาเป็นวันเฉลิมฉลองที่มีแต่ความสุขที่เรียกกันว่า "ตรุษจีน"