วันอังคารที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

คำคม

คำคมเพียงไม่กี่พยางค์ ไม่กี่คำ อาจช่วยเตือนสติเราจากหลุมพรางของชีวิตได้ เห็นจะจริง เพราะคำคมส่วนใหญ่ทั้งของไทยและต่างประเทศ ทั้งของภาษาอังกฤษ ภาษาไทยหรือภาษาไหนๆ คำคม เหล่านั้นล้วนเกิดจากกระบวนการรวบรวมประสบการณ์อย่างยาวนาน และ สื่อสารออกมาเป็นคำ เป็นประโยคสั้นๆ  เรารวมคำคม ทั้งของไทยและเทศมาให้เพื่อนๆ ชมแล้ว ในเวอร์ชั่นไทยและภาษาอังกฤษ

"The secret of success in life is to be ready for your opportunity when it comes."
- - Benjamin Disraeli - -
ความลับของความสำเร็จคือเตรียมตัวให้พร้อมอยู่ เสมอสำหรับโอกาสที่มาถึง


"You get the best out of others when you give the best of yourself."
- - Harvey Firestone - -
"คุณจะได้รับสิ่งที่ดีที่สุดของคนอื่น เมื่อคุณได้ให้สิ่งที่ดีที่สุดของคุณไป"


"If you always do what interests you, then at least one person is pleased."
- - Katherine Hepburn - -
ถ้าคุณลงมือทำในสิ่งที่คุณสนใจอยู่ เสมอ อย่างน้อยจะมีคนคนหนึ่งที่พอใจ


"Only two things are infinite, the universe and human stupidity,
and I'm not sure about the former."
- - Albert Einstein - -
มีเพียงสอง สิ่งเท่านั้นที่หาที่สิ้นสุดไม่ได้ สิ่งหนึ่งคือจักรวาล และอีกสิ่งคือความโง่เขลาของมนุษย์ ทว่าฉันไม่แน่ใจว่าจักรวาลจะเป็นเช่นนั้น


"Life remains the same until the pain of remaining the same
becomes greater than the pain of change."
- - Anonymous - -
ชีวิตจะ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจนกระทั่งความเจ็บปวดจากความนิ่งเฉย จะมากกว่าความเจ็บปวดจากการเปลี่ยนแปลง

สุขภาพจิต

สุขภาพจิต คือ สภาพชีวิตที่เป็นสุขมีอารมณ์มั่นคงสามารถปรับตัว ให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา มีสมรรถภาพในการ ทำงาน และอยู่ร่วมกับผู้อื่นด้วยความพอใจ สุขภาพไม่ว่าจะเป็นสุขภาพกายหรือสุขภาพจิตเป็นสิ่งสำคัญและ จำเป็นสำหรับทุกชีวิตในการดำรงอยู่อย่างปกติ เป้าหมายของการเรียนรู้ วิชาสุขภาพจิต ก็คือ การทำให้ชีวิตมีความสุข ความพอใจ ความสมหวัง ทั้งของตนเองและของผู้อื่น ความสำคัญของสุขภาพจิต "สุขภาพจิต" มีผลต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์หลายด้าน ดังนี้ 1. ด้านการศึกษา ผู้ที่สุขภาพจิตดีย่อมมีจิตใจปลอดโปร่ง สามารถศึกษาได้สำเร็จ 2. ด้านอาชีพการงาน ผู้ที่สุขภาพจิตดีย่อมมีกำลังใจต่อสู้อุปสรรค ไม่ท้อแท้ เบื่อหน่าย ทำงานก็บรรลุผลสำเร็จ 3. ด้านชีวิตครอบครัว คนในครอบครัวสุขภาพจิตดี ครอบครัวก็สงบสุข 4. ด้านเพื่อนร่วมงาน ผู้ที่สุขภาพจิตดีย่อมไม่เป็นที่รังเกียจ ปรับตัวเข้ากับผู้อื่นได้ดี 5. ด้านสุขภาพร่างกาย ถ้าสุขภาพจิตดีร่างกายก็สดชื่น หน้าตายิ้มแย้ม สมองแจ่มใส เป็นที่สบายใจแก่ผู้พบเห็น อยากคบค้าสมาคมด้วย ลักษณะของผู้ที่มีสุขภาพจิตดี ผู้ที่มีสุขภาพจิตดีมีลักษณะหลายประการ ดังนี้ 1. เป็นผู้ที่มีความสามารถและความเต็มใจที่จะรับผิดชอบอย่าง เหมาะสมกับระดับอายุ 2. เป็นผู้ที่มีความพอใจในความสำเร็จจากการได้เข้าร่วม กิจกรรมต่าง ๆ ของกลุ่ม โดยไม่คำนึงว่าการเข้าร่วมกิจกรรมนั้น จะมีการถกเถียงกันมาก่อนหรือไม่ก็ตาม 3. เป็นผู้เต็มใจที่จะทำงานและรับผิดชอบอย่างเหมาะสมกับบทบาท หรือตำแหน่งในชีวิตของเขา แม้ว่าจะทำไปเพื่อต้องการตำแหน่งก็ตาม 4. เมื่อเผชิญกับปัญหาที่จะต้องแก้ไข เขาก็ไม่หาทางหลบเลี่ยง 5. จะรู้สึกสนุกต่อการขจัดอุปสรรคที่ขัดขวางต่อความสุขหรือ พัฒนาการ หลังจากที่เขาค้นพบด้วยตนเองว่า อุปสรรคนั้นเป็นความจริง ไม่ใช่อุปสรรคในจินตนาการ 6. เป็นผู้ที่สามารถตัดสินใจด้วยความกังวลน้อยที่สุด มีความรู้สึกขัดแย้งในใจและหลบหลีกปัญหาน้อยที่สุด 7. เป็นผู้ที่สามารถอดได้ รอได้ จนกว่าจะพบสิ่งใหม่ หรือ ทางเลือกใหม่ที่มีความสำคัญหรือดีกว่า 8. เป็นผู้ที่ประสบผลสำเร็จด้วยความสามารถที่แท้จริง ไม่ใช่ความสามารถในความคิดฝัน 9. เป็นผู้ที่คิดก่อนทำ หรือมีโครงการแน่นอนก่อนที่จะปฏิบัติ ไม่มีโครงการที่ถ่วงหรือหลีกเลี่ยงการกระทำต่าง ๆ 10. เป็นผู้ที่เรียนรู้จากความล้มเหลวของตนเองแทนที่จะหา ข้อแก้ตัวด้วยการหาเหตุผลเข้าข้างตนเอง หรือโยนความผิดให้แก่คนอื่น 11. เมื่อประสบผลสำเร็จ ก็ไม่ชอบคุยโอ้อวดจนเกินความเป็นจริง 12. เป็นผู้ที่ปฏิบัติตนได้สมบทบาท รู้ว่าจะปฏิบัติอย่างไรเมื่อถึงเวลา ทำงาน หรือจะปฏิบัติอย่างไรเมื่อถึงเวลาเล่น 13. เป็นผู้ที่สามารถจะปฏิเสธต่อการเข้าร่วมกิจกรรมที่ใช้เวลา มากเกินไปหรือกิจกรรมที่สวนทางกับที่เขาสนใจแม้ว่ากิจกรรมนั้นจะทำให้ เขาพอใจได้ในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งก็ตาม 14. เป็นผู้ที่สามารถตอบรับที่จะเข้าร่วมกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ สำหรับเขา แม้ว่ากิจกรรมนั้นจะไม่ทำให้เขาพึงพอใจก็ตาม 15. เป็นผู้ที่จะแสดงความโกรธออกมาโดยตรง เมื่อเขาได้รับ ความเสียหายหรือถูกรังแก และจะแสดงออกเพื่อป้องกันความถูกต้อง ของเขาด้วยเหตุด้วยผลการแสดงออกนี้จะมีความรุนแรงอย่างเหมาะสม กับปริมาณความเสียหายที่เขาได้รับ 16. เป็นผู้ที่สามารถแสดงความพอใจออกมาโดยตรงและจะแสดงออก อย่างเหมาะสมกับปริมาณและชนิดของสิ่งที่ก่อให้เกิดความพึงพอใจ 17. เป็นผู้ที่สามารถอดทน หรืออดกลั้นต่อความผิดหวัง และ ภาวะความคับข้องใจทางอารมณ์ได้ดี 18. เป็นผู้ที่มีลักษณะนิสัยและเจตคติที่ก่อรูปขึ้นอย่างเป็นระเบียบ เมื่อเผชิญกับสิ่งยุ่งยากต่าง ๆ ก็สามารถจะประนีประนอมนิสัยและเจตคติ เข้ากับสถานการณ์ที่ยุ่งยากต่าง ๆ ได้ 19. เป็นผู้ที่สามารถระดมพลังงานที่มีอยู่ในตัวออกมาใช้ได้อย่างทันที และพร้อมเพรียง และสามารถรวมพลังงานนั้นสู่เป้าหมายอย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อความสำเร็จของเขา 20. เป็นผู้ที่ไม่พยายามที่จะเปลี่ยนแปลงความจริงซึ่งชีวิตของเขา จะต้องดิ้นรนต่อสู้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด แต่เขาจะยอมรับว่าบุคคลจะต้องต่อสู้ กับตนเอง ฉะนั้นเขาจะต้องมีความเข้มแข็งให้มากที่สุด และใช้วิจารณญาณ ที่ดีที่สุด เพื่อจะผละจากคลื่นอุปสรรคภายนอก ประโยชน์ของการมีสุขภาพจิตดี 1. ช่วยให้สามารถแก้ไขปรับปรุงการดำรงชีวิตให้อยู่ในสังคมได้อย่างราบรื่น เหมาะสม มีความสุข รู้จักจุดอ่อน จุดเด่นของตนเอง 2. ช่วยปรับปรุง แก้ไข และป้องกันความคับข้องใจ 3. ช่วยให้เกิดความเข้าใจตนเองและผู้อื่น รู้จิตใจ ความรู้สึก อารมณ์ของคนอื่นได้ 4. ช่วยให้สามารถพัฒนาอาชีพ การงาน และครอบครัว

วันพฤหัสบดีที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ธุรกิจโมเดลอาหาร


ในปัจจุบันนี้ผู้ประกอบการหลายราย ได้หันมาให้ความสำคัญกับอาหารที่นำมาโชว์เพื่อเรียกน้ำย่อยให้กับลูกค้า ที่จากใช้ของจริง ต้องปรับเปลี่ยนทุกวัน ซึ่งก็ถือเป็นต้นทุนอย่างหนึ่ง ที่ต้องเสียอาหารไป 1 เมนูทุกวัน ส่งผลให้ธุรกิจโมเดลอาหารเป็นทางเลือกหนึ่งที่ผู้ประกอบการร้านอาหารของ ไทยได้หันมาเลือกใช้การลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาวเช่นนี้กันมากขึ้น
foodmodel01
ไอเดียการทำโมเดลอาหารที่ทำจากเรซิ่นบ้าง ดินญี่ปุ่นบ้าง เกิดจากนายสุเทพ นาคพงศ์พันธ์ เจ้าของธุรกิจโมเดลอาหาร เล่าว่า แต่เดิมตนเองทำงานเกี่ยวกับไฟแนนซ์ แต่โดยส่วนตัวเป็นคนที่ชอบงานปั้น โดยเฉพาะของจิ๋ว เช่น ดอกไม้ประดิษฐ์ และงานปั้นขนาดเล็กหลากหลายชนิด จนได้มีโอกาสไปออกงานแสดงสินค้าในต่างประเทศกับกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งในการเดินทางไประเทศญี่ปุ่นนั้น ถือเป็นการจุดประกายไอเดียในธุรกิจโมเดลอาหาร ที่ในขณะนั้นที่ญี่ปุ่นเป็นที่นิยมมากในการทำโมเดลอาหาร
foodmodel02
หลังจากนั้นประมาณ 2-3 ปีต่อมา เพื่อนของสุเทพ ที่ใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น ให้ลองปั้นโมเดลอาหารไทย เพื่อส่งขายให้กับร้านอาหารไทยที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งก็ได้รับการตอบรับดี เนื่องจากฝีมือที่ประณีต สีสันที่เหมือนอาหารไทย โดยจากเดิมที่ผลิตจากญี่ปุ่น ราคาจะสูงมาก รวมถึงคนญี่ปุ่นไม่รู้จักอาหารไทยดีกว่าคนไทย ส่งผลให้บางครั้งสีสันก็ไม่เหมือนกับอาหาร
foodmodel03
“ในเรื่อง ของการทำโมเดลนั้น เริ่มมาจากประเทศในแถบยุโรปที่ได้นำกระดาษมาเป็นแบบจำลอง โดยจำกัดในวงการแพทย์ แต่คนญี่ปุ่นได้นำมาดัดแปลงเป็นโมเดลอาหาร และพัฒนามาสู่การปั้นจากดินญี่ปุ่น ซึ่งปัจจุบันในประเทศญี่ปุ่นร้านอาหารไม่ว่าจะขนาดเล็กหรือใหญ่ต่างใช้โมเดล ในการจัดแสดงเมนูอาหารเพื่อดึงดูดลูกค้ากันเป็นจำนวนมาก ซึ่งเราก็ได้เห็นโอกาสของธุรกิจนี้ จึงคิดนำมาเผยแพร่ในประเทศไทยดูบ้าง ก็ถือได้ว่าประสบความสำเร็จระดับหนึ่ง คนไทยหันมาใช้โมเดลอาหารกันมากขึ้น โดยเฉพาะร้านอาหารญี่ปุ่น เกาหลี และอาหารไทย แบรนด์ดัง ที่มีจำนวนสาขามากมาย ต่างก็ให้ความสำคัญกับโมเดลอาหารกันอย่างต่อเนื่อง”
foodmodel04
สำหรับธุรกิจโมเดลอาหารของสุเทพนั้น เรียกได้ว่าได้นำทุกศาสตร์ของงานฝีมือมาใช้เกือบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น งานปั้น งานหล่อ และใช้วัตถุดิบหลากหลายชนิด เช่น ดินญี่ปุ่น ยางซิลิโคน โฟมอย่างนิ่ม (เป็นการผสมผสานระหว่างโฟมกับฟองน้ำ) ในขณะที่การใช้สี ก็มีความหลากหลายเช่นเดียวกัน อย่าง สีน้ำมัน สีทาบ้าน สีอะคริลิค หรือแม้กระทั่งสีพ่นรถยนต์ ซึ่งวัตถุดิบเหล่านี้หาไม่ยากนัก และราคาไม่แพง แต่ต้นทุนหลักอยู่ที่แม่พิมพ์ (โมล์) เพราะการขึ้นงาน 1 ชิ้น ก็ต้องทำต้นแบบใหม่ ตามที่ลูกค้าต้องการ
foodmodel05
“ขณะนี้ผลงานของสุเทพ ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องจากผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจด้านอาหารทั้ง รายเล็กและรายใหญ่ ซึ่งขณะนี้โมเดลอาหารที่ลูกค้าสั่งให้ผลิตกันมากจะเป็นอาหารเกาหลี ญี่ปุ่น และร้านก๋วยเตี๋ยว ที่เป็นแฟรนไชส์โดยสั่งผลิตลูกชิ้น เพื่อนำไปวางโชว์ที่ตู้กระจก แทนการนำลูกชิ้นที่เป็นของจริงมาจัดวางไว้ ซึ่งจะเสี่ยงต่อการเน่าเสีย จากสภาพอากาศของเมืองไทยที่ค่อนข้างร้อน แม้ราคาจะสูงกว่าการสินค้าของจริงมาตั้งวางโชว์ในแต่ละวัน แต่หากคิดในระยะยาวถือว่าคุ้มค่า เพราะสามารถวางได้นานหลายปี”
foodmodel06
ส่วนขั้นตอนการทำลูกค้าต้องรูปภาพอาหารที่ชัดเจนมาให้เพื่อความสมจริงของโมเดลอาหารที่ลูกค้าต้องการ โดยระยะเวลาในการทำอยู่ที่ประมาณ 1 สัปดาห์ หากสินค้าไม่เกิน 10 รายการ ซึ่งถือเป็นระยะเวลาที่ไม่นานมากนัก เนื่องจากทางสุเทพได้ปั้นวัตถุดิบพื้นฐาน อย่าง พริก กระเทียม ผักต่างๆ ที่เป็นวัตถุดิบในการนำไปประกอบเป็นอาหารไทย โดยทำคล้ายกับห้องครัวที่พร้อมหยิบจับวัตถุดิบนำไปประกอบเป็นอาหารได้ตลอด เวลา
foodmodel07
นอกจากการรับทำโมเดลอาหารแล้ว สุเทพ ยังรับงานโรงพยาบาลทำงานจำลองอวัยวะต่างๆ เช่น เต้านม ฟันปลอม เพื่อเพิ่มความเข้าใจให้กับคนไข้มากขึ้นด้วย รวมถึงการรับทำโมเดลแบบแลนด์สเคป (Landscape) ที่เป็นการจำลองทิวทัศน์ ของสถานที่นั้นๆ ซึ่งถือเป็นงานที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ แต่ที่ผ่านมาทางสุเทพ จะไม่รับงานที่มีขนาดสูงเกิน 2 เมตร เนื่องจากต้องใช้เวลาผลิตงานนานกว่าปกติ
foodmodel08
อย่างไรก็ตามสุเทพกล่าวทิ้งท้ายว่า ในอนาคตคาดว่าธุรกิจโมเดลอาหารจะมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะคนไทยมีความเข้าใจในการลงทุนระยะยาวมากขึ้น ที่คุ้มค่ากว่าการนำอาหารของจริงมาตั้งโชว์ให้กับลูกค้า
 ขอบคุณ Thai Sme Franchise : ศูนย์รวมธุรกิจ SME ที่ใหญ่ที่สุดในไทย

วันอาทิตย์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2554

การนอน

ควรจะนอนหลับแค่ไหนถึงจะเรียกว่าพอดี
จริงๆแล้ว จะไม่มีคำตอบเป็นจำนวนชั่วโมงที่ตายตัวลงไปว่าเราจะต้องนอนกันคืนละกี่ชั่วโมงจึงจะเรียกได้ว่าเพียงพอ จำนวนชั่วโมงเหล่านี้จะมากน้อยแตกต่างกันไปในแต่ละคน กรรมพันธุ์อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องได้ด้วย แต่ถ้าพูดถึงช่วงเฉลี่ยแล้ว อาจกล่าวได้ว่า จำนวนชั่วโมงของการนอนหลับในผู้ใหญ่จะตกอยู่ราวๆ 6-9 ชั่วโมง ซึ่งในบางคนอาจพบแตกต่างจากนี้ได้ เช่น บางคนอาจรู้สึกว่าได้นอน 5 ชั่วโมง ก็รู้สึกสดชื่นแล้ว แต่บางคนอาจต้องการถึง 10 ชั่วโมง จึงจะรู้สึกสดชื่น เพราะฉะนั้นจำนวนชั่วโมงว่าจะนานแค่ไหนนั้น ขึ้นอยู่กับว่า เมื่อเราตื่นขึ้นมาแล้ว เราจะรู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า สามารถทำงานได้ตลอดวันหรือไม่ต่างหาก
นอนกรนเกิดจากอะไร
เสียงกรนเป็นเสียงเนื่องจากการสั่นสะเทือนของลมหายใจ ผ่านช่องทางเดินหายใจส่วนบนที่แคบลง และเปลี่ยนรูปร่างไป เกิดได้ทั้งในขณะหายใจเข้าและหายใจออก การนอนกรนในตัวของมันเองไม่เป็นอันตราย แต่มันอาจนำไปสู่การเกิดการหยุดหายใจในขณะหลับได้ การที่น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น การใช้ยานอนหลับหรือสารในกลุ่มกลุ่มนี้ อาจจะทำให้คนที่นอนกรนมานานกลายเป็นผู้ที่มีปัญหา sleep apnea ได้ (การหายใจหยุดเป็นพักๆในขณะหลับ) นอกจากนี้ข้อมูลทางการศึกษา บ่งชี้ว่าการนอนกรนเสียงดัง และเรื้อรังนั้น อาจสัมพันธ์กับการเกิดความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจได้
จำเป็นต้องรักษาการนอนกรนหรือไม่
ถ้าการนอนกรนนั้น พบร่วมกับปัญหาทางโรคระบบหัวใจและหลอดเลือด เช่น ความดันโลหิตสูง หรือโรค sleep apnea (การหยุดหายใจเป็นช่วงๆในขณะหลับ) หรือพร้อมกับมีอาการง่วงนอนผิดปกติในระหว่างวัน การนอนกรนนั้นควรได้รับการรักษา ซึ่งก่อนที่จะวางแผนการรักษานั้น จำเป็นที่คนๆนั้น จะต้องได้รับการตรวจวินิจฉัยจากห้องปฏิบัติการการนอนหลับเสียก่อน เพื่อประเมินความรุนแรง และปัจจัยที่มีผลต่อการนอนกรน เช่น ท่าของการนอน การรักษาการนอนกรนที่มีปัญหาร่วมกับการเกิด sleep apnea (การหยุดหายใจเป็นช่วงๆ ในขณะหลับ) นั้น มีหลายวิธีขึ้นกับความรุนแรงของโรค เช่น อาจใช้เครื่องมือที่พ่นลมผ่านจมูกเข้าสู่ทางเดินหายใจ เพื่อลดปัญหาการอุดตันของทางเดินหายใจ ซึ่งจะเป็นตัวรักษาอาการหายใจผิดปกติได้ โดยตรงใน ผู้ที่มีปัญหา sleep apnea (การหยุดหายใจเป็นช่วงๆ ในขณะหลับ) หรืออาจใช้การฝึกท่านอนให้นอนตะแคง ถ้าการนอนหงายมีผลทำให้เกิดการนอนกรน นอกจากนี้อาจใช้เบ้าหล่อใส่ไว้ในช่องปากเพื่อกันลิ้นตก หรือปรับตำแหน่งของกรามในขณะที่เรานอนหลับ เพื่อลดปัญหานอนกรน

ผลเสียของการนอนไม่พอ

นอนไม่พอ...ทำให้อ้วน


การที่คนเราอดนอนมาก ๆ จะทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนกระตุ้นการเจริญเติบโตทางกายภาพ และควบคุม สัดส่วนของไขมันต่อกล้ามเนื้อในร่างกายน้อยลง ทำให้ร่างกายรู้สึกอยากรับประทานอาหารมากขึ้น นอกจากนี้การนอนไม่เพียงพอนั้น ยังส่งผลต่อฮอร์โมนเลปติน ซึ่งเป็นสารที่สื่อต่อระบบประสาทว่า ควรจะอิ่มได้เร็วหรือช้าเท่าใด ตามความต้องการอาหารของร่างกาย เมื่อระดับเลปตินลดลงจากการนอนน้อย ผู้คนจะรู้สึกอยากอาหารมากขึ้น แม้จะได้กินอาหารจนได้พลังงานเพียงพอแล้วก็ตาม
นอนไม่พอ...ทำให้ขาดภูมิต้านทาน
ส่วนหนึ่งที่เห็นได้ชัดจากการอดกลับอดนอนนั่นคือ หากสมากชิกในบ้านของคุณหรือตัวคุณเองที่ อดนอนมาก ๆ จะหน้าตาซีดเซียว ไม่มีน้ำมีนวล เจ็บป่วยง่ายขึ้นเมื่อเจอเชื้อโรคเพราะการนอนไม่พอจะส่งผล ต่อเม็ดเลือดขาว และกลไกการตอบสนองภูมิคุ้มกันต่าง ๆ ของร่างกายนั่นเอง
นอนไม่พอ...ทำให้เป็นมะเร็ง
การนอนไม่พออาจส่งผลร้ายแรงถึงขั้นเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งที่มีความเกี่ยวข้องกันในเรื่องวงจรการหลั่ง ฮอร์โมนแปรปรวน เนื่องมาจากการอดนอนและ แสงรบกวนในเวลากลางคืน ทำให้เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็น มะเร็งเต้านม ฉะนั้น นอกจากเราควรจะนอนให้เพียงพอแล้ว เรายังไม่ควรเปิดไฟนอนอีกด้วย
นอนไม่พอ...ทำให้โง่
ศ.เจอร์เกน ซัลเลย์ นักวิจัยพฤติกรรมการนอนหลับ วิทยาลัยแพทย์รีเกนส์เบิร์ก เปิดเผยว่า การอดนอนส่งผลกระทบเลวร้ายต่อร่างกาย จะทำให้ประสิทธิภาพการจดจำลดลง ดังนั้นควรนอนพักผ่อนอย่างน้อยคืนละ 7 ชั่วโมงเพื่อความมีสุขภาพที่ดี
          อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะมีงานวิจัยหรือไม่ คนส่วนใหญ่ย่อมรู้กันดีว่า การที่คนเราอดนอนนั้นทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลงอยู่แล้ว แต่เมื่อมีงานวิจัยออกมายืนยันถึงผลร้ายของการอดนอนแบบนี้ คนที่นอนไม่พอหรือยังบริหารเวลาในชีวิตการทำงานและชีวิตครอบครัวไม่ดี ควรตระหนักและเริ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสียตั้งแต่วันนี้ ก่อนจะเกิดผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาวของคุณ